เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม 2566 นายภูมิธรรม เวชยชัย รนรม.และรมว.พาณิชย์ /รษก.นรม. เป็นประธานจัดการปช. คทง. ศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน (Rapid Response Center -RRC) ประชุมเตรียมความพร้อมรับคนไทยในอิสราเอลกลับประเทศ โดยมีนายนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงการต่างประเทศ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ประชุมหารือร่วมกันเพื่อรับทราบ
(1) สถานการณ์การสู้รบระหว่างกองกำลังอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสล่าสุด
(2) จำนวนคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบและแนวทางการให้ความช่วยเหลือ
(3) การเตรียมความพร้อมรับคนไทยในอิสราเอลกลับประเทศไทย หากสถานการณ์การสู้รบทวีความรุนแรงจนส่งผลถึงความปลอดภัยของคนไทยในอิสราเอล ซึ่งมีคนไทยพำนักอยู่ในอิสราเอลประมาณ 30,000 คน โดยส่วนใหญ่เป็นแรงงานภาคการเกษตร ในชั้นนี้ได้รับการยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ราย (รอยืนยันจากทางการ อส. อีก 10 ราย) บาดเจ็บ 8 ราย (สาหัส 2 ราย) ถูกควบคุมตัวโดยกองกำลังทหารปาเลสไตน์ 11 ราย ทั้งนี้ นอกจากคนไทยแล้วยังมีคนชาติอิสราเอล ฟิลิปปินส์ เนปาล และจอร์เจียที่ถูกควบคุมตัว
ในชั้นนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ กำลังพิจารณาร่วมกับคณะทูตในอิสราเอลถึงความจำเป็นในการอพยพคนไทยออกมาจากอิสราเอล อย่างไรก็ดี ที่ประชุมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมด้าน logistics เพื่อให้สามารถอพยพคนไทยได้ทันทีเมื่อสถานการณ์เอื้ออำนวยและจำเป็นต้องอพยพคนไทยออกจากอิสราเอลตามแนวทาง
(1) อพยพคนไทยจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบออกไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
(2) แสวงหามิตรประเทศในการอพยพคนไทย
(3) กองทัพอากาศเตรียมความพร้อมในการอพยพคนไทยหากจำเป็น สำหรับการให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ถูกควบคุมตัว ที่ประชุมได้มอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประสานกับผู้แทนสำนักงานปาเลสไตน์ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อแสดงความห่วงกังวลและความเห็นใจในการปล่อยตัวคนไทย
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะให้มีการประชุม RRC เพื่อติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมการให้ความช่วยเหลือคนไทยทุกวัน
คนไทยในอิสราเอลที่ต้องการขอรับความช่วยเหลือเร่งด่วน สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ที่หมายเลข +972 546368150
ผู้ที่ประสงค์จะขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือติดต่อสอบถามเกี่ยวกับญาติที่พำนักอยู่ในอิสราเอล สามารถติดต่อ Call center กรมการกงสุล (30 คู่สาย ตลอด 24 ชม.) ที่หมายเลข 02 5728442 (กด 0) และที่หมายเลขฉุกเฉินที่กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศที่หมายเลข
064-019-8530
064-019-8907
099-616-4786 หรือหมายเลข
02 5751047-51
02 575 1053 (ในวันเวลาราชการ)