บทบาท หน้าที่งานสัญชาติและนิติกรณ์

บทบาท หน้าที่งานสัญชาติและนิติกรณ์

วันที่นำเข้าข้อมูล 25 พ.ย. 2562

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 14,042 view

 

04_top_icon   


บทบาท หน้าที่ งานสัญชาติและนิติกรณ์

  ภาพรวม


  งานทะเบียนราษฎร
     - การจดทะเบียนคนเกิด
     - การจดทะเบียนคนตาย
  งานทะเบียนครอบครัว
     - การจดทะเบียนสมรส
     - การจดทะเบียนหย่า
     - การจดทะเบียนรับรองบุตร
     - การจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม
     - การจดทะเบียนเลิกรับบุตรบุญธรรม
  งานสัญชาติ
     - การเข้าถือสัญชาติไทย
     - การเสียสัญชาติไทย
     - การขอกลับคืนสัญชาติไทย
  งานความร่วมมือทางศาล
  งานการโอนตัวนักโทษ
  งานรับรองเอกสาร
 

  หน้าที่ตามกฎหมายภายไทย


1 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 (ครอบครัว)
     - กำหนดให้พนักงานทูตหรือกงสุลไทยเป็นผู้รับจดทะเบียนครอบครัว

2 พระราชบัญญัติการจดทะเบียนครอบครัว พ.ศ.2478
     - กำหนดให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นส่วนราชการเจ้าหน้าที่ ในการจดทะเบียนครอบครัว
     ให้แก่คนไทย

3 พระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534
     - กำหนดให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นส่วนราชการเจ้าหน้าที่ โดยมีพนักงานทูตและกงสุลไทย
     เป็นนายทะเบียนสำหรับจดทะเบียนคนเกิด และจดทะเบียนคนตายสำหรับคนไทยในต่างประเทศ

4 พระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม พ.ศ. 2522
     - กำหนดหน้าที่บางประการให้กระทรวงการต่างประเทศปฏิบัติในเรื่องเกี่ยวกับการรับบุตร
     ที่มี บุญธรรมชาวต่างชาติเข้ามามีส่วนและจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมในต่างประเทศ
     งานการทะเบียนราษฎร และการทะเบียนครอบครัวตามที่กฎหมายกำหนดนี้เมื่อปฏิบัติ
     ในต่างประเทศแล้ว (โดย สอท.หรือ สกญ.) ต้องรายงานเข้ามายังกระทรวงการต่างประเทศ
     เพื่อพิจารณาส่งต่อไปให้สำนักทะเบียนกลาง กระทรวงมหาดไทย รวบรวมข้อมูลไว้เป็น
     ศูนย์รวมอีกต่อหนึ่ง

5 พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508
     - ประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2510 แต่งตั้งให้พนักงานทูตหรือกงสุลไทย
     เป็น พนักงานทูต หรือ กงสุลไทยเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508

6 พระราชบัญญัติการปฏิบัติเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศในการดำเนินการตามคำพิพากษา
   คดีอาญา พ.ศ. 2527
     - กฏหมายฉบับนี้ได้กำหนดวิธีการให้ความร่วมมือระหว่างประเทศในการปฏิบัติตามคำพิพากษา
     คดีอาญา ซึ่งอาจเป็นทั้งตามคำพิพากษาของศาลไทยหรือของศาลต่างประเทศทุกเรื่อง
     เมื่อติดต่อขอความร่วมมือ ซึ่งกันและกันจะต้องติดต่อผ่านกระทรวงการต่างประเทศเสมอ

7 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา / ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
     - การติดต่อขอความร่วมมือระหว่างศาลไทยกับศาลต่างประเทศในเรื่องทางอาญาและทางแพ่ง
     เช่น การส่งคำคู่ความการสืบพยาน ฯลฯ

     - ไม่ว่าจะเป็นการร้องขอจากฝ่ายใดจะต้องดำเนินการผ่านกระทรวงการต่างประเทศ หน้าที่
     ตามสนธิสัญญาและความตกลงระหว่างประเทศสนธิสัญญาว่าด้วยความร่วมมือในการบังคับ
     ให้เป็นไปตามคำพิพากษาคดีอาญา

     - การติดต่อระหว่างประเทศไทยกับประเทศภาคี ไม่ว่าจะเป็นการร้องขอความร่วมมือ
     จากฝ่ายใด จะต้องติดต่อผ่านกระทรวงการต่างประเทศ โดยกองสัญชาติและนิติกรณ์
     กรมการกงสุล สอท. / สกญ.เป็นผู้ปฏิบัติ ทั้งนี้ ได้มีพระราชบัญญัติการปฏิบัติเพื่อความร่วมมือ
     ระหว่างประเทศ ในการดำเนินการตามคำพิพากษาคดีอาญา พ.ศ.2527 รองรับอยู่
 

  หน้าที่ด้านนิติกรณ์ (Legalization)


  สำหรับงานด้านนิติกรณ์ (Legalization) ยังไม่มีกฎหมายภายในรองรับ หรือกำหนดวิธีการปฏิบัติ
     ไว้แต่เป็นการทำตามหลักปฏิบัติระหว่างประเทศเช่นกัน
  การรับรองนิติกรณ์ คือ การที่เจ้าพนักงานตามกฎหมายลงลายมือชื่อและตราประทับในตำแหน่ง
     หน้าที่รับรองความถูกต้องตามกฎหมายของเอกสารต่าง ๆ ได้แก่
     - เอกสารสำคัญที่ทางราชการออกให้
     - นิติกรรมที่จัดทำขึ้นโดยเอกชน
  การรับรองเอกสารเป็นระบบสากลที่กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้กำหนดขี้นแต่เป็นประเพณี
     ที่นานาชาติ ปฏิบัติระหว่างกัน
  กองสัญชาติฯ เป็นหน่วยประสานงานเบื้องต้น / เป็นตัวกลางประสานกับสถานเอกอัครราชทูต
     และ สถานกงสุลไทยในต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง
     สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม สำนักอัยการสูงสุด และกับ
     สอท.หรือ สกญ. ต่างประเทศในประเทศไทยด้วย
  ปัจจุบันคนไทยได้เดินทางไปติดต่อ/หรือไปทำงานที่มีถิ่นฐานอยู่ในต่างประเทศจำนวนมากขึ้น
     งานทะเบียนราษฎร และทะเบียนครอบครัวจึงเพิ่มขึ้น
  การติดต่อทางการค้าและเศรษฐกิจกับต่างประเทศมีมากขึ้น การรับรองเอกสารการพาณิชย์
    จึงมีปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นและอาจเกิดกรณีโตแย้งสิทธิหรือการเป็นความฟ้องร้องกันมากขึ้น
  ปัจจุบัน กระทรวงการต่างประเทศเร่งพัฒนางานด้านสัญชาติ การทะเบียน และการรับรอง
    นิติกรณ์เอกสารให้มีมาตรฐานมีประสิทธิภาพและความถูกต้องของเอกสาร รวมถึงพัฒนาการ
    ให้บริการ เพื่อรักษาผลประโยชน์สาธารณะและคุณภาพชีวิตของประชาชน พร้อมทั้งภาพลักษณ์
    ที่ดีของประเทศโดยรวม

อ้างอิง : ระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการรับรองเอกสาร พ.ศ. 2539