วันที่นำเข้าข้อมูล 8 ม.ค. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 9 ม.ค. 2568

| 118 view

ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)
กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ

 

      กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ (ต่อไปนี้เรียก “กรมการกงสุล”, “ผู้ควบคุมข้อมูล”, “เรา”, “ของเรา”) ตระหนักถึงความสำคัญและหน้าที่ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยให้ความสำคัญในการเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการ รวมถึงบุคคลธรรมดา ที่ดำเนินการในนามนิติบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (ต่อไปนี้เรียกว่า “ผู้ใช้บริการ”) และมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้มีความปลอดภัย และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการจะได้รับความคุ้มครองตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด กรมการกงสุลจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) รวมถึงสิทธิตามกฎหมายในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ข้อ 1. ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้มีผลบังคับใช้กับใครบ้าง

   ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ครอบคลุมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ รวมถึงบุคคลธรรมดาที่ดำเนินการในนามนิติบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น กรรมการ ที่ปรึกษา ผู้บริหาร พนักงาน ตัวแทน และบุคคลใด ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับบุคลากรของกรมการกงสุล

  “ผู้ใช้บริการ” หมายถึง บุคคลที่เป็นเป้าหมายในการให้บริการของกรมการกงสุล และหมายความรวมถึงผู้เข้าร่วมกิจกรรมของกรมการกงสุล ผู้ให้ความสนใจบริการของกรมการกงสุล ผ่านช่องทางต่าง ๆ และ/หรือ ผู้ใช้บริการต่าง ๆ ของกรมการกงสุลผ่านสื่อออนไลน์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ แล้วแต่กรณี รวมถึงผู้มีอำนาจดำเนินการแทนผู้ใช้บริการตามกฎหมายแล้วแต่กรณี เช่น ผู้ใช้อำนาจปกครองของผู้เยาว์ ผู้อนุบาลของผู้ไร้ความสามารถ ผู้พิทักษ์ของผู้เสมือนไร้ความสามารถ เป็นต้น

  “ผู้สมัคร” หมายถึง ผู้สมัครงานเพื่อเป็นพนักงานประจำ พนักงานอัตราจ้าง พนักงานที่อยู่ภายใต้การจ้างงานของบริษัทจัดหางาน (Outsource) และนักศึกษาฝึกงานที่ทำงานให้แก่กรมการกงสุล แล้วแต่กรณี ไม่ว่าการสมัครงานนั้นจะดำเนินการโดยผู้สมัครเอง หรือเป็นการรับสมัครงานภายในกรมการกงสุล หรือผ่านการแนะนำของบุคคลอื่นใด หรือผ่านการดำเนินการของผู้ให้บริการจัดหางาน

   “พนักงาน” หมายถึง ผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าทำสัญญาเพื่อทำงานให้แก่กรมการกงสุลในฐานะพนักงานประจำ พนักงานอัตราจ้าง พนักงานที่อยู่ภายใต้การจ้างงานของผู้ให้บริการจัดหางาน (Outsource) และนักศึกษาฝึกงาน ที่เข้ามาทำงานในกรมการกงสุล แล้วแต่กรณี

  “คู่ค้า” หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่มีการทำธุรกรรมติดต่อกับกรมการกงสุล และได้รับการอนุมัติให้มีการทำสัญญาซื้อ/จ้าง/เช่า กับกรมการกงสุล ทั้งที่เป็นคู่ค้าปัจจุบัน ผู้ที่อาจเป็นคู่ค้าในอนาคต พันธมิตรทางธุรกิจ และหมายความรวมถึง ซัพพลายเออร์ (Supplier) ที่จัดหาสินค้าและบริการให้กับกรมการกงสุล

ข้อ 2. ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง

   “ข้อมูลส่วนบุคคล” (Personal Data) หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง เลขบัตรประกันสังคม เลขใบอนุญาตขับขี่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเครดิต ที่อยู่อีเมล (email address) ทะเบียนรถยนต์ โฉนดที่ดิน IP Address, Cookie ID, Log File เป็นต้น

   อย่างไรก็ดี ข้อมูลต่อไปนี้ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลสำหรับการติดต่อทางธุรกิจที่ไม่ได้ระบุถึงตัวบุคคล อาทิ ชื่อบริษัท ที่อยู่ของบริษัท เลขทะเบียนนิติบุคคลของบริษัท หมายเลขโทรศัพท์ของที่ทำงาน ที่อยู่อีเมล (Email Address) ที่ใช้ในการทำงาน ที่อยู่อีเมล (Email Address) กลุ่มของบริษัท เช่น [email protected] ข้อมูลนิรนาม (Anonymous Data) หรือข้อมูลแฝงที่ถูกทำให้ ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้อีกโดยวิธีการทางเทคนิค (Pseudonymous Data) ข้อมูลผู้ถึงแก่กรรม เป็นต้น

   “ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” (Sensitive Data) หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด ซึ่งกรมการกงสุลต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยกรมการกงสุลจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่กรมการกงสุลมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามที่กฎหมายอนุญาต

   ทั้งนี้ ต่อไปในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หากไม่มีการกล่าวโดยเฉพาะเจาะจงจะเรียก “ข้อมูลส่วนบุคคล” และ “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” ที่เกี่ยวกับผู้ใช้บริการข้างต้นให้รวมกันเรียกว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”

   กรณีกรมการกงสุลได้รับสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน หรือกรมการกงสุลนำข้อมูลของท่านออกจากบัตรประจำตัวประชาชนด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตัวตนในการก่อนิติสัมพันธ์ทางกฎหมาย และ/หรือการทำธุรกรรมใด ๆ กับกรมการกงสุลข้อมูลที่ได้รับจะมีข้อมูลศาสนาด้วย ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) กรมการกงสุลไม่มีความประสงค์จะเก็บข้อมูลดังกล่าว จึงขอให้ท่านดำเนินการขีดฆ่า หรือ ปิดทึบข้อมูลส่วนนั้น ทั้งนี้ หากท่านมิได้ดำเนินการตามที่แจ้ง กรมการกงสุลขอสงวนสิทธิในการดำเนินการขีดฆ่า หรือ ปิดทึบข้อมูลดังกล่าว เพื่อเป็นการรักษาไว้ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน

ข้อ 3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมการกงสุลเก็บรวบรวม

   กรมการกงสุล ได้จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น ตามวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลที่กรมการกงสุลจะแจ้งให้ทราบในลำดับถัดไป ทั้งนี้ได้จำแนกประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมการกงสุลจัดเก็บไว้ ดังนี้

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียด
ข้อมูลส่วนบุคคลพื้นฐาน เช่น คำนำหน้า ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น เพศ รูปถ่าย วันเดือนปีเกิด อายุ สัญชาติ เลขที่ประจำตัวประชาชน ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ สถานภาพการสมรส หมายเลขหนังสือเดินทาง ใบสำคัญประจำคนต่างด้าว ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ทะเบียนบ้าน
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติ เป็นต้น
ข้อมูลอื่น ๆ (ก) ข้อมูลติดต่อ (Contact Data) เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ชื่อบัญชีไลน์ (LINE ID) ชื่อบัญชีเฟสบุ๊ก (Facebook ID) บัญชีกูเกิล (Google ID) บัญชีทวิตเตอร์ (Twitter ID) และบัญชีผู้ใช้ในเว็บไซต์โซเชียลมีเดียอื่น ๆ หรือข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน
(ข) ข้อมูลทางการเงิน (Financial Data) เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร
(ค) ข้อมูลการติดต่อกับกรมการกงสุล (Communication Data) เช่น ข้อมูลการบันทึกภาพหรือเสียงเมื่อมีการติดต่อกับกรมการกงสุล
(ง) ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การบันทึกภาพนิ่งหรือวิดีโอ
(จ) ข้อมูลการศึกษาและการอบรม เช่น การศึกษา หลักสูตรที่เข้าอบรม
(ฉ) ข้อมูลกรมการกงสุลที่ทำงาน เช่น ชื่อสถานที่ทำงาน ที่อยู่ของที่ทำงาน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ตำแหน่ง ชื่อผู้บังคับบัญชา
(ช) ข้อมูลนิสัย (Behavior Data) และข้อมูลความชอบส่วนบุคคล เช่น กิจกรรม อาหาร เครื่องดื่ม ของหวาน เป็นต้น

ข้อ 4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

   กรมการกงสุลดำเนินการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลที่มีความอ่อนไหวของท่าน ผ่านกระบวนการ ดังนี้

  4.1 ข้อมูลที่ท่านให้กับกรมการกงสุลโดยตรง

   เช่น ข้อมูลที่ปรากฏในการสมัครใช้บริการ รวมถึงเอกสารประกอบต่าง ๆ คำขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลอื่น คำขอใช้บริการหรือคำขอข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับบริการของกรมการกงสุล ข้อมูลการร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ ข้อมูลที่ใช้สมัครลงทะเบียนสร้างบัญชีการใช้งาน (Account) หรือ โปรไฟล์ (Profile) กับกรมการกงสุลเพื่อใช้บริการของกรมการกงสุลทั้งทางช่องทางออฟไลน์และช่องทางออนไลน์ ข้อมูลที่ท่านติดต่อกับกรมการกงสุลไม่ว่า จะเป็นการสื่อสารในรูปแบบหนังสือหรือการสนทนารวมถึงภาพและเสียง ตลอดจนข้อมูลที่ท่านให้กับกรมการกงสุลผ่านการทำแบบสำรวจ การให้ข้อเสนอแนะหรือข้อคิดเห็นผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลที่ท่านเข้าใช้บริการ ณ ที่สำนักงานใหญ่หรือสำนักงานสาขา ศูนย์บริการผู้ใช้บริการ หรือ บูธจัดแสดงสินค้าหรือบริการ เป็นต้น

  4.2 ข้อมูลที่กรมการกงสุลจัดเก็บอัตโนมัติ

   เมื่อท่านเข้าใช้บริการผ่านระบบของกรมการกงสุลหรือเข้าชมเว็บไซต์ของกรมการกงสุลผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป เป็นต้น ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า “คุกกี้” หรือ เทคโนโลยีอื่นที่มีลักษณะการทำงานเหมือนหรือคล้ายกัน

  4.3 ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลภายนอก หรือข้อมูลสาธารณะที่เชื่อถือได้

   กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการปกครอง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า แหล่งข้อมูลเชิงพาณิชย์ เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน แหล่งข้อมูลสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการข้อมูล (Data Providers) หน่วยงานหรือกรมการกงสุลหรือสมาคมหรือสมาพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับบริการของท่าน เป็นต้น

  4.4 ข้อมูลที่ท่านติดต่อกับกรมการกงสุล

   ข้อมูลที่ท่านติดต่อกับกรมการกงสุล พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน คู่ค้าหรือพันธมิตรของกรมการกงสุล ผู้รับมอบอำนาจหรือผู้กระทำการแทน หรือบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือได้รับมอบหมายจากกรมการกงสุลผ่านทางช่องทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน สื่อสังคมออนไลน์ โทรศัพท์ อีเมล การประชุม การสัมภาษณ์ ข้อความสั้น (SMS) โทรสาร ไปรษณีย์ VDO Call Service หรือโดยวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ กรมการกงสุลอาจเก็บข้อมูลในรูปข้อความ ตลอดจนภาพและเสียง

  4.5 ข้อมูลที่ท่านร่วมทำกิจกรรมกับกรมการกงสุล

  ในส่วนของกิจกรรมทางที่จัดขึ้นโดยหรือในนามของกรมการกงสุล และ/หรือพันธมิตรที่ร่วมทำกิจกรรมกับกรมการกงสุล หรือกรมการกงสุลมอบหมายหรืออนุญาตให้ทำกิจกรรมดังกล่าว

   เมื่อท่านตกลงและยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอก แก่กรมการกงสุล ซึ่งบุคคลภายนอกดังกล่าว ไม่จำกัดเพียงผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้บริการ ไม่ว่าทางธุรกิจหรือทางอื่นใด เช่น สมาชิกในครอบครัว เป็นต้น ท่านรับรองและรับประกันความถูกต้องของข้อมูล ส่วนบุคคลนั้น และท่านรับรองและรับประกันว่าท่านได้แจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบอย่างครบถ้วนแล้วเกี่ยวกับประกาศความเป็นส่วนตัวนี้

ข้อ 5. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

   กรมการกงสุลดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์ภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูล ดังต่อไปนี้

  5.1 ฐานพันธะสัญญา (Contract) เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา เช่น

  สัญญาจ้างงาน หรือสัญญาอื่นใด หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอ/ใบสมัครของท่านก่อนเข้าทำสัญญา ตามแก่กรณี

  5.2 ฐานหน้าที่ผูกมัดตามกฎหมาย (Legal Obligation) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมาย

  กำหนด เช่น กฎหมายคุ้มครองแรงงาน กฎหมายประกันสังคม กฎหมายเงินทดแทน กฎหมายแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กฎหมายภาษีอากร กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายคอมพิวเตอร์ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น

  5.3 ฐานประโยชน์ที่สำคัญแห่งชีวิต (Vital Interests) กรณีที่การประมวลผลข้อมูลมีความ

  จำเป็นต่อการปกป้องประโยชน์สำคัญของเจ้าของข้อมูลหรือบุคคลอื่น เช่น ป้องกันอันตรายร้ายแรงอันอาจเกิดต่อสุขภาพและชีวิตด้วยการประมวลผลข้อมูลสุขภาพหรือข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data) และเจ้าของข้อมูลอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถให้ความยินยอมได้ และไม่มีวิธีอื่นที่สามารถปกป้องชีวิตบุคคลอื่นโดยไม่ต้องประมวลผลข้อมูลนี้แล้ว

  5.4 ฐานภารกิจของรัฐ (Public Interest) กรณีที่การประมวลผลข้อมูลจำเป็นต่อการดำเนินงานตามภารกิจของรัฐเพื่อประโยชน์สาธารณะที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย

  5.5 ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interests) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของกรมการกงสุลโดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล ซึ่งจะไม่ละเมิดสิทธิพื้นฐาน หรือสิทธิทางเสรีภาพของท่าน

  5.6 ฐานจดหมายเหตุ/วิจัย/สถิติ (Archives/Research/Statistic) เพื่อเป็นการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ จดหมายเหตุ การศึกษาวิจัย หรือสถิติ

  5.7 ความยินยอม (Consent) กรมการกงสุลจะขอความยินยอมจากท่านกรณีที่มีกฎหมาย

  กำหนดให้ขอความยินยอม หรือกรมการกงสุลไม่มีเหตุให้ใช้ฐานการประมวลผลข้างต้นเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมมาจากท่านได้

วัตถุประสงค์ในการดำเนินการ ฐานในการประมวลผลข้อมูล
1. เป็นประโยชน์ในการติดตามสถานะการดำเนินการให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากในต่างประเทศ และติดตามสถานะการชำระหนี้ของผู้ยืมเงินทดรองราชการฯ ตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศ ว่าด้วยการใช้จ่ายเงินอุดหนุนเพื่อช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากในต่างประเทศ พ.ศ. 2562 แบบออนไลน์ (E-help) • ฐานพันธะสัญญา (Contract)
• ฐานหน้าที่ผูกมัดตามกฎหมาย (Legal Obligation)
• ฐานประโยชน์ที่สำคัญแห่งชีวิต (Vital Interests)
• ฐานภารกิจของรัฐ (Public Interest)
• ฐานจดหมายเหตุ/วิจัย/สถิติ (Archives/Research/Statistic)
• ฐานความยินยอม (Consent)
2. เพื่อดำเนินการตามคำขอสละสัญชาติของผู้ที่ได้สัญชาติไทย (รับและส่งต่อให้หน่วยงานอื่นนอกกระทรวงที่เกี่ยวข้องดำเนินการ) • ฐานหน้าที่ผูกมัดตามกฎหมาย (Legal Obligation)
• ฐานภารกิจของรัฐ (Public Interest)
3. เพื่อประกอบการดำเนินภารกิจของรัฐเรื่องการโอนตัวนักโทษ (รับและส่งต่อให้หน่วยงานอื่นนอกกระทรวงที่เกี่ยวข้องดำเนินการ) • ฐานหน้าที่ผูกมัดตามกฎหมาย (Legal Obligation)
• ฐานภารกิจของรัฐ (Public Interest)
4. เพื่อเป็นเอกสารหลักฐานการรับเรื่อง (รับและส่งต่อให้หน่วยงานอื่นนอกกระทรวงที่เกี่ยวข้องดำเนินการ) สำหรับ CID (เอกสารรับรองความประพฤติ) • ฐานหน้าที่ผูกมัดตามกฎหมาย (Legal Obligation)
• ฐานภารกิจของรัฐ (Public Interest)
5. เพื่อประกอบการดำเนินภารกิจของรัฐเรื่องการส่งเอกสารทางคดี (รับและส่งต่อให้หน่วยงานอื่นนอกกระทรวงที่เกี่ยวข้องดำเนินการ) ตาม MLAT (ความร่วมมือทางอาญา) • ฐานหน้าที่ผูกมัดตามกฎหมาย (Legal Obligation)
• ฐานภารกิจของรัฐ (Public Interest)
6. เพื่อทำ Travel Document For Aliens (T.D.) • ฐานหน้าที่ผูกมัดตามกฎหมาย (Legal Obligation)
• ฐานภารกิจของรัฐ (Public Interest)
7. เพื่อทำ Re-Entry Permit • ฐานหน้าที่ผูกมัดตามกฎหมาย (Legal Obligation)
• ฐานภารกิจของรัฐ (Public Interest)
8. เพื่อทำวีซ่าสำหรับการยื่นขอวีซ่าแบบแผ่นปะตรวจลงตรา • ฐานหน้าที่ผูกมัดตามกฎหมาย (Legal Obligation)
• ฐานภารกิจของรัฐ (Public Interest)
9. เพื่อทำวีซ่าสำหรับการยื่นขอวีซ่าแบบอิเล็กทรอนิกส์ • ฐานหน้าที่ผูกมัดตามกฎหมาย (Legal Obligation)
• ฐานภารกิจของรัฐ (Public Interest)
10. เพื่อตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์ (เฉพาะกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มเฝ้าระวัง) • ฐานหน้าที่ผูกมัดตามกฎหมาย (Legal Obligation)
• ฐานภารกิจของรัฐ (Public Interest)
11. เพื่อทำบัตร APEC • ฐานหน้าที่ผูกมัดตามกฎหมาย (Legal Obligation)
• ฐานภารกิจของรัฐ (Public Interest)
12. เพื่อใช้ประกอบการจัดทำหนังสือเดินทาง • ฐานหน้าที่ผูกมัดตามกฎหมาย (Legal Obligation)
• ฐานภารกิจของรัฐ (Public Interest)
• ฐานความยินยอม (Consent)
13. เพื่อไว้เป็นหลักฐานในการยื่นคำร้องขอคัดประวัติฯ • ฐานหน้าที่ผูกมัดตามกฎหมาย (Legal Obligation)
• ฐานภารกิจของรัฐ (Public Interest)
14. เพื่อใช้ไว้เป็นหลักฐานในการทำ Endorsement • ฐานหน้าที่ผูกมัดตามกฎหมาย (Legal Obligation)
• ฐานภารกิจของรัฐ (Public Interest)
15. เพื่อการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญาหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญากับกรมการกงสุล • ฐานหน้าที่ผูกมัดตามกฎหมาย (Legal Obligation)
• ฐานภารกิจของรัฐ (Public Interest)
การบริหารจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น
• จัดทำระบบสารสนเทศเพื่อเก็บข้อมูล ประมวลผลข้อมูล เชื่อมต่อข้อมูลกับผู้ใช้บริการ ตัวแทน
• จัดทำและให้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อประมวลผลข้อมูลของผู้ใช้บริการจากการใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของกรมการกงสุล เช่น Mobile Application “Thaiconsular”, Facebook, Youtube, Line เป็นต้น
• ฐานหน้าที่ผูกมัดตามกฎหมาย (Legal Obligation)
• ฐานพันธะสัญญา (Contract)
• ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interests)
• ฐานความยินยอม (Consent)
17. การบริหารจัดการงาน เรื่องร้องเรียน ข้อพิพาท และคดีความ และการบริหารความเสี่ยง เช่น
• การตรวจสอบ การสืบสวนสอบสวนพฤติกรรมทุจริต การฉ้อโกง หรือการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยของประชาชน
• การดำเนินการใด ๆ เพื่อตรวจสอบ สืบสวน สอบสวน ดำเนินคดี หรือดำเนินมาตรการใด ๆ เพื่อใช้สิทธิตามสัญญาและตามกฎหมาย การระงับข้อพิพาทหรือข้อขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างกรมการกงสุลกับท่านอันเกี่ยวข้องกับการให้บริการของกรมการกงสุล
• ฐานหน้าที่ผูกมัดตามกฎหมาย (Legal Obligation)
• ฐานพันธะสัญญา (Contract)
• ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interests)
19. เพื่อดำเนินการตามกระบวนการและขั้นตอนตามสัญญาจ้างงาน กระบวนการฝึกงาน หรือสัญญาอื่นใดอันเกี่ยวเนื่องกับการว่าจ้าง ระหว่างท่านกับกรมการกงสุล
1) เพื่อประเมินความสามารถหรือคุณสมบัติของท่าน ภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายอนุญาต เช่น คุณสมบัติด้านวิชาชีพ ประวัติสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม รวมถึงการสอบถามข้อมูลจากบุคคลอ้างอิงที่ท่านได้ให้ข้อมูลไว้กับกรมการกงสุล
2) เพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครงาน ประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่งงานที่กรมการกงสุลต้องการสรรหา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ เช่น การรับสมัคร การทดสอบ การสัมภาษณ์ การประเมิน การคัดเลือก ตลอดจนการเสนอการจ้างงานให้กับท่าน
3) เพื่อดำเนินการตามกระบวนการและขั้นตอนต่าง ๆ ตลอดระยะเวลาของการจ้างงาน เช่น การจัดทำทะเบียนพนักงาน การจัดทำข้อมูลพนักงาน การจัดทำบัตรพนักงาน การประเมินการทดลองงาน การปรับปรุงข้อมูลพนักงาน การบริหารจัดการวันหยุดพักผ่อนประจำปี การลางานประเภทต่าง ๆ การแจ้งตั้งครรภ์ การขอหนังสือรับรอง การลาออก รวมถึงการดำเนินการตามแบบคำร้องขออื่น ๆ ของท่าน
4) เพื่อดำเนินการด้านการบริหารงานบุคคล เช่น การฝึกอบรม การพัฒนาทักษะความรู้ความสามารถ การมอบหมายงาน การมอบอำนาจ การแต่งตั้ง การโยกย้าย การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งงาน การปรับโครงสร้างองค์กร การประเมินผลการปฏิบัติงาน การปรับระดับตำแหน่งงาน การปรับอัตราเงินเดือน การจ่ายโบนัส รวมถึงการสนับสนุนด้านเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพและการวางแผนสืบทอดตำแหน่งงาน
5) เพื่อการตรวจสอบและพิสูจน์ตัวตนของท่านเพื่อลงเวลาทำงาน และ/หรือเพื่อเข้าพื้นที่ของกรมการกงสุล เพื่อปฏิบัติงาน เข้าประชุม อบรมสัมมนา หรือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของกรมการกงสุลโดยกรมการกงสุลจะเก็บข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ และ/หรือ ข้อมูลการจดจำใบหน้า (Face Recognition) ของท่าน โดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านหรือตามที่กฎหมายอนุญาต
• ฐานหน้าที่ผูกมัดตามกฎหมาย (Legal Obligation)
• ฐานพันธะสัญญา (Contract)
• ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interests)
• ฐานความยินยอม (Consent)
20. เพื่อดำเนินการด้านกิจกรรมต่าง ๆ สำหรับพนักงาน ทั้งภายในและภายนอกองค์กร
1) เพื่อการจัดกิจกรรมหรือการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกกรมการกงสุลรวมถึงการประกาศผล หรือประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งอาจมีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเช่น ชื่อ-นามสกุล ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวของท่านจากการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เผยแพร่เพื่อประชาสัมพันธ์ตามวัตถุประสงค์ของแต่ละกิจกรรม
2) เพื่อการจัดอบรม สัมมนา/ดูงาน รวมถึงการทำกิจกรรมนอกสถานที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับท่าน กรมการกงสุลอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นให้กับผู้ให้บริการภายนอก เพื่อจัดเตรียม รถโดยสาร อาหาร ที่พัก และสถานที่ต่าง ๆ ให้กับท่าน
3) เพื่อทดสอบความรู้ความเข้าใจ ทำแบบสอบถาม หรือสำรวจความคิดเห็นของท่าน และประเมินผลจากการทดสอบหรือสำรวจดังกล่าว
4) เป็นฐานข้อมูลของกรมการกงสุลในการติดต่อประสานงาน
• ฐานพันธะสัญญา (Contract)
• ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interests)
21. เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของกรมการกงสุล การแลกบัตรก่อนเข้าพื้นที่สำนักงาน/สาขา รวมถึงการบันทึกภาพภายในพื้นที่ของกรมการกงสุลด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV) • ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interests)
22. เพื่อจัดทำข้อมูลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอกของกรมการกงสุล สำหรับใช้ประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส (ITA) ในส่วนการประเมิน EIT • ฐานภารกิจของรัฐ (Public Interest)
• ฐานความยินยอม (Consent)

ข้อ 6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

   เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ภายในกรมการกงสุลและบุคคลหรือหน่วยงานภายนอก ดังนี้

  6.1 ภายในกรมการกงสุล

   ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ภายในกรมการกงสุลเฉพาะที่เกี่ยวข้องและมีบทบาทหน้าที่เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์เท่านั้น โดยบุคคลหรือทีมงานเหล่านี้ของกรมการกงสุลจะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามความจำเป็นและเหมาะสม

  • เจ้าหน้าที่เฉพาะที่เกี่ยวข้อง โดยกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลตามบทบาทหน้าที่ที่รับผิดชอบ

  • ผู้บริหาร หรือผู้บังคับบัญชาโดยตรงของท่าน ที่มีความรับผิดชอบในการบริหารหรือตัดสินใจเกี่ยวกับท่าน หรือเมื่อต้องเกี่ยวข้องกับขั้นตอนทางด้านงานบุคคล

  6.2 ภายนอกกรมการกงสุล

   ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับองค์กรภายนอก ดังนี้

  6.2.1 หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมาย

  กำหนด เช่น กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กรมส่งเสริมการส่งออก กรมศุลกากร กรมทรัพย์สินทางปัญญา รัฐบาล ศาล กรมบังคับคดี หรือหน่วยงานอื่นใดที่อาศัยอำนาจตามกฎหมาย

  6.2.2 ผู้ให้บริการและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมการกงสุลมอบหมาย หรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่กรมการกงสุลในการให้บริการต่าง ๆ รวมถึง ผู้ที่ทำหน้าที่ในนามกรมการกงสุลหรือร่วมกับกรมการกงสุลเพื่อดำเนินวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ และมีความจำเป็นต้องได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามหน้าที่ของกรมการกงสุล ซึ่งมีความจำเป็นอย่างสมเหตุสมผลที่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อทำให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของกรมการกงสุล

  6.2.3 องค์กรหรือบุคคลภายนอก กรมการกงสุลอาจเปิดเผยข้อมูลของท่าน ให้กับองค์กรหรือบุคคลภายนอกที่มีการติดต่อสอบถามเพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบการทำธุรกรรมต่าง ๆ ของท่าน และเพื่อที่จะได้ให้บริการให้สอดคล้องกับความต้องการของท่าน กรมการกงสุลอาจเปิดเผยข้อมูลของท่าน ให้กับองค์กรหรือบุคคลภายนอกที่มีการติดต่อสอบถามเพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบการทำธุรกรรมต่าง ๆ ของท่าน เช่น การสมัครหรือใช้บริการด้านสินเชื่อ การสมัครงาน โดยกรมการกงสุลจะเปิดเผยข้อมูลโดยการยืนยันเฉพาะสถานะภาพการเป็นพนักงาน และข้อมูลอื่น ๆ ตามที่ท่านได้เปิดเผยให้กับกับองค์กรหรือบุคคลภายนอกดังกล่าวไว้เท่านั้น

  รวมถึงในกรณีที่กรมการกงสุลได้รับหนังสือยินยอมของท่าน ให้เปิดเผยข้อมูลจากหน่วยงานภายนอก เช่น จากนายจ้างใหม่ของท่าน กรมการกงสุลอาจเปิดเผยข้อมูลของท่าน เพื่อรับรองสภาพการจ้างงานเดิม หรือการให้ข้อมูลของท่านกับสถาบันการศึกษาที่ท่านเคยศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาหรือโครงการวิจัยคุณภาพบัณฑิต

ข้อ 7. การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการถอนความยินยอม

  7.1 ในกรณีที่กรมการกงสุลเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยฐานความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่านที่ให้ไว้กับกรมการกงสุลได้ตลอดเวลา ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้ว

  7.2 หากท่านเป็นผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ก่อนการให้ความยินยอม

  โปรดแจ้งรายละเอียดผู้ใช้อำนาจปกครองให้กรมการกงสุลทราบ เพื่อให้กรมการกงสุลสามารถดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองด้วย

   ท่านอาจเพิกถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งหมดหรือบางส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยแจ้งให้กรมการกงสุลทราบ

   หากท่านเพิกถอนความยินยอมการที่ท่านยินยอมให้กรมการกงสุลเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอันเนื่องมาจากเหตุผลหรือวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่สำหรับการดำเนินการด้านการตลาด กรมการกงสุลอาจไม่สามารถดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ หรือบริการ และ/หรือ บริหารจัดการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้าต่าง ๆ หรือ ความสัมพันธ์ และ/หรือ บัญชีของท่านที่มีกับกรมการกงสุลได้ ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านเสียประโยชน์ในการใช้บริการของกรมการกงสุลในระดับเดียวกับกรณีที่ท่านให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อกรมการกงสุล

ข้อ 8. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

  8.1 กรมการกงสุลอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลอื่นทั้งในประเทศและต่างประเทศในกรณีที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา หรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างกรมการกงสุลกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือเป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

  8.2 กรมการกงสุลอาจเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือคลาวด์

  (Cloud) ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของการให้บริการซอฟท์แวร์สำเร็จรูปและรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูปในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ กรมการกงสุลจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และกรมการกงสุลจะกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยด้านข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม

  8.3 กรณีที่มีเหตุจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ กรมการกงสุลจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองและท่านสามารถใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงกรมการกงสุลจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ

ข้อ 9. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  9.1 กรมการกงสุลจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานตราบเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงความจำเป็นและวัตถุประสงค์ที่กรมการกงสุลจะต้องเก็บรวบรวม ใช้และประมวลผล ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ใช้บังคับ

  9.2 กรมการกงสุลจะยังดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป แม้ว่าท่านจะยุติความสัมพันธ์กับกรมการกงสุล เท่าที่จำเป็นตามข้อกำหนดของกฎหมายเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือทำการเก็บในรูปแบบที่ทำให้ระบุตัวบุคคลไม่ได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น “การทำข้อมูลนิรนาม” (Anonymous Data) หรือ “การทำข้อมูลแฝงที่ถูกทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้อีกโดยวิธีการทางเทคนิค” (Pseudonymous Data) เป็นต้น

  9.3 กรมการกงสุลอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าที่จำเป็นต้องเก็บเพื่อการดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยกรมการกงสุลจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่ท่านยุติความสัมพันธ์ หรือการติดต่อครั้งสุดท้ายกับกรมการกงสุล โดยกรมการกงสุลอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานกว่าที่กำหนดหากกฎหมายอนุญาต

  9.4 เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาและอายุความที่เกี่ยวข้อง กรมการกงสุลจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในรูปแบบที่เหมาะสมตามประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม กรมการกงสุลมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปแม้จะพ้นอายุความตามกฎหมายแล้ว ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  9.5 กรมการกงสุลจะดำเนินการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ทำให้ไม่สามารถระบุชื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เป็นการถาวร หรือโดยประการอื่นเพื่อจำกัดข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษา หรือที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือเมื่อกรมการกงสุลต้องปฏิบัติตามคำขอของท่านให้กรมการกงสุลทำการลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ข้อ 10. กรมการกงสุลคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

   กรมการกงสุลจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) เพื่อรักษาความปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยกรมการกงสุลได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากกรมการกงสุลใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยมิชอบ และกรมการกงสุลได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบและหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะตามความจำเป็น และเหมาะสม นอกจากนี้ผู้บริหาร พนักงาน ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากกรมการกงสุลมีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่กรมการกงสุลกำหนด

ข้อ 11. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

  11.1 ท่านมีสิทธิในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้

  (1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม

  หากท่านได้ให้ความยินยอมให้กรมการกงสุลเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านอยู่กับกรมการกงสุล เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่

  ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อท่านจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการต่าง ๆ เช่น ท่านจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ โปรโมชั่นหรือข้อเสนอใหม่ ๆ ไม่ได้รับบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของท่าน หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่านจึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม

  (2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

  ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และขอให้กรมการกงสุล ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้กับท่าน รวมถึงขอให้กรมการกงสุลเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองของกรมการกงสุล ทั้งนี้ กรมการกงสุลอาจปฏิเสธคำขอของท่านหาก การเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะส่งผลกระทบต่อสิทธิ และเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือกรมการกงสุลต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาลที่ห้ามเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

  (3) สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล

  ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่กรมการกงสุลได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้ โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้กรมการกงสุลส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น เมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมการกงสุลส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

  ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ ความยินยอมแก่กรมการกงสุลในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมการกงสุลจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเพื่อให้ท่านสามารถใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของกรมการกงสุลได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับกรมการกงสุล หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของกรมการกงสุล หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด

  (4) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูล

  ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของกรมการกงสุล หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน กรมการกงสุลจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่กรมการกงสุลสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี

  นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาด หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติได้อีกด้วย

  (5) สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล

  ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่ากรมการกงสุลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว เว้นแต่เป็นกรณีที่กรมการกงสุลต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว

  (6) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

  ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่กรมการกงสุลอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่กรมการกงสุลหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้กรมการกงสุลระงับการใช้แทน

  (7) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล

  ท่านมีสิทธิในการขอให้กรมการกงสุลแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

  (8) สิทธิร้องเรียน

  เจ้าของข้อมูลมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่กรมการกงสุลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของกรมการกงสุลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือประกาศที่ออกตามกฎหมายดังกล่าว

  หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของกรมการกงสุล เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อกรมการกงสุล โดยใช้รายละเอียดการติดต่อในประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ใช้บริการฉบับนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ากรมการกงสุลได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

  ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยื่นคำร้องขอใช้สิทธิภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อกรมการกงสุลได้รับคำร้องขอดังกล่าวแล้ว จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด อนึ่ง กรมการกงสุลขอสงวนสิทธิที่จะปฏิเสธหรือไม่ดำเนินการตามคำร้องขอดังกล่าวในกรณีที่กฎหมายกำหนด

  11.2 กรมการกงสุลมีสิทธิทั้งปวงและดุลพินิจแต่เพียงผู้เดียวในการตอบรับเพื่อดำเนินการตามคำร้องขอหรือปฏิเสธคำขอของท่าน

  การใช้สิทธิของท่านตามข้อ 11.1 อาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่กรมการกงสุลอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้น ของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากกรมการกงสุลปฏิเสธคำขอข้างต้น กรมการกงสุลจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย

ข้อ 12. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

   กรมการกงสุลให้ความสำคัญกับความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอันดับแรก ความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรา เราจึงได้นำมาตรการเชิงองค์กร (Organizational Measures) และมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measures) รวมถึงมาตรการทางกายภาพ (Physical Measures) ที่เหมาะสมมาใช้ เช่น การเข้ารหัส การจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ท่านมั่นใจว่าบุคลากรของกรมการกงสุลและบุคคลภายนอกที่ดำเนินการในนามของกรมการกงสุลได้ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงหน้าที่ในการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลและกรมการกงสุลใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมกับการประมวลผลข้อมูล

   กรมการกงสุลได้มีการทบทวน ปรับปรุงขั้นตอนและมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของกรมการกงสุลให้เป็นปัจจุบันสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้ระดับความปลอดภัยของข้อมูล ส่วนบุคคลที่เหมาะสมกับความเสี่ยง และให้การรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคล ความสมบูรณ์ ความพร้อมใช้งานและความคล่องตัวในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง การปกป้อง การสูญหายและการเก็บรวบรวม การเข้าถึง การใช้ การดัดแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ กรมการกงสุลจะนำมาตรการต่าง ๆ ในการรักษา ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของกรมการกงสุลมาใช้กับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ทุกประเภท ไม่ว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะเป็นทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือรูปแบบเอกสาร ก็ตาม

ข้อ 13. การเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก

   ในการใช้บริการแอบพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของกรมการกงสุล อาจมีลิงก์เชื่อมต่อไปยังเครือข่ายสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์ม และเว็บไซต์อื่นที่มีบุคคลภายนอกเป็นผู้ดำเนินการ กรมการกงสุลพยายามที่จะเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ที่มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม กรม การกงสุลไม่สามารถรับผิดชอบในเนื้อหาหรือมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์อื่นนั้น เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นประการอื่น ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่ท่านให้แก่เว็บไซต์ของบุคคลภายนอกนั้นจะถูกเก็บรวบรวมโดยบุคคลดังกล่าวและอยู่ภายใต้ ประกาศ/นโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกดังกล่าว (หากมี) ในกรณีเช่นว่านี้ กรมการกงสุลขอให้ท่านศึกษาและปฏิบัติตามประกาศ/นโยบายเกี่ยวกับคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในเว็บไซต์นั้น ๆ แยกต่างหากจากของกรมการกงสุล

ข้อ 14. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ใช้บริการ

  กรมการกงสุลจะทำการพิจารณาทบทวนประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ใช้บริการ เป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติ และกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง หากมีการเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ใช้บริการ กรมการกงสุลจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวที่สำคัญใด ๆ พร้อมกับประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ กรมการกงสุลขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงประกาศ ความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เป็นระยะ ๆ

ข้อ 15. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

  สถานที่ติดต่อ : กรมการกงสุล (Department of Consular Affairs)

  123 ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210

  เบอร์โทรศัพท์ : 02 572 8442

  อีเมล : [email protected]

ข้อ 16. ช่องทางการติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  หากท่านมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล หรือหากเจ้าของข้อมูลมีข้อสงสัยหรือเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกรมการกงสุลที่

  เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  สถานที่ติดต่อ : กรมการกงสุล (Department of Consular Affairs)

  123 ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210

  เบอร์โทรศัพท์ : 02 572 8442

  อีเมล : [email protected]

ข้อ 17. กฎหมายที่ใช้บังคับ

   ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ อยู่ภายใต้การบังคับและการตีความตามกฎหมายไทยและศาลไทยเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทใดที่อาจเกิดขึ้น

ประกาศใช้ ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2567