เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 เวลา 12.30 น. นางอรวิจิตร์ จันทรังสี หัวหน้าสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ภูเก็ต ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันบนเรือฝึกของกองทัพเรืออิตาลี Amerigo Vespucci ในโอกาสที่เรือ Amerigo Vespucci จอดเทียบท่า ณ จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 6-10 พฤศจิกายน 2567 โดยฝ่ายอิตาลีนำโดยนายเปาโล ดีโอนีซี (H.E. Mr. Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย และ นาวาเอก Giuseppe Lai ผู้บังคับการเรือ Amerigo Vespucci เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน เพื่อเป็นเกียรติแก่นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และนางบุษดี สุวรรณรัตน์ ภริยาผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและนายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ภายหลังงานเลี้ยงอาหารกลางวัน ผู้บังคับการเรือ Amerigo Vespucci ได้นำชมเรือ ทั้งนี้ เรือ Amerigo Vespucci ได้รับสมญานามว่า เป็นเรือที่สวยที่สุดในโลก โดยเรือมีอายุ 93 ปี และเดินทางรอบโลกในปี 2566 - 2568 ในโอกาสครบรอบ 90 ปี ของเรือฯ โดยเส้นทางการเดินเรือ ได้เดินเรือจากอิตาลีไปยังยุโรปเหนือ ทวีปอเมริกา และข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกมายังทวีปเอเชีย จอดเทียบท่า ณ ท่าเรือ 36 แห่ง ในประเทศต่าง ๆ 5 ทวีปทั่วโลก ทั้งนี้ เรือ Amerigo Vespucci ได้เริ่มออกเดินทางรอบโลกจากเมืองเจนัว ประเทศอิตาลี ในช่วงเดือนมิถุนายน 2566 และแวะจอดเทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ต เป็นท่าเรือที่ 27 ต่อจาก Belawan ของอินโดนีเซีย และจะออกจากจังหวัดภูเก็ตในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ไปยังเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย และจะเดินทางต่อเพื่อกลับไปยังประเทศอิตาลี มีกำหนดกลับถึงอิตาลีในช่วงเดือนมิถุนายน 2568
เรือฝึก Amerigo Vespucci ของกองทัพเรืออิตาลี เป็นเรือที่ใช้ฝึกการเดินเรือในแบบดั้งเดิมแก่นักเรียนโรงเรียนนายเรือของอิตาลี ชั้นปี 1 โดยนักเรียนนายเรืออิตาลีจะต้องฝึกบนเรือนี้เป็นเวลาประมาณ 3 เดือน ในช่วงปีแรกของการเป็นนักเรียนนายเรือ ลักษณะเรือเป็นเรือใบทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสเต็มลำ จะมีใบเรือ 24 ใบ พื้นที่ทั้งหมด 2,600 ตารางเมตร ความยาว 101 เมตร เสากระโดงหลักสามเสาสูงจากระดับน้ำทะเล 54 เมตร ความลึกในการกินน้ำสูงสุดคือ 7.30 เมตร และระวางขับน้ำ 4,100 ตัน โดยเรือฝึก Amerigo Vespucci ตั้งชื่อตามนาย Amerigo Vespucci ซึ่งเป็นนักสำรวจและเดินเรือชาวอิตาลีที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 15 โดยเป็นผู้ค้นพบอเมริกาเหนือ (ภายหลังนาย Christopher Columbus ค้นพบอเมริกาใต้) โดยชื่อ America ก็ตั้งตามชื่อของนาย Amerigo Vespucci เรือนี้ได้รับการขนานนามว่า เป็นเรือของกองทัพเรืออิตาลีที่มีความสวยงามที่สุด ในช่วงแรก เรือลำนี้ถูกใช้งานเพื่อฝึกซ้อมการเดินสมุทรให้กับเหล่านาวิกโยธินชาวอิตาลี จากนั้น ถูกใช้งานเพื่อเป็นเรือสำรวจน่านน้ำเชิงอนุรักษ์ เป็นเวลาอีกกว่า 30 ปี รวมแล้วอายุของเรือลำนี้มากกว่า 90 ปี โดยได้เดินทางรอบโลก เพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของอิตาลี
ในช่วงระหว่างวันที่ 6 - 10 พฤศจิกายน 2567 ที่จอดเทียบท่า ณ จังหวัดภูเก็ต เรือได้เปิดให้สาธารณชนเข้าเยี่ยมชม โดยมีประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียง ชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยว รอเข้าชมเรืออย่างตื่นตาตื่นใจเป็นจำนวนมาก จนส่งผลทำให้ระบบการจองเข้าชมเรือเต็มจำนวนอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดี ทางผู้บังคับการเรือฯ ยังให้โอกาสผู้ที่ลงทะเบียนจองไม่ทัน สามารถ Walk in เข้ามาชมเรือได้
นายเปาโล ดีโอนีซี เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย กล่าวว่า นับเป็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญ โดยเป็นครั้งแรกที่เรือฝึก Amerigo Vespucci มาเยือนจังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย หลังจากที่ตระเวนไปยังน่านน้ำต่าง ๆ 5 ทวีปทั่วโลก ออกจากท่าเรือเมืองเจนัว ประเทศอิตาลี ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2566 และจะเดินทางกลับประเทศอิตาลี ในวันที่ 25 มิถุนาบน 2568 และโดยส่วนตัว เป็นผู้ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในประเทศไทยอยู่แล้วจึงมีความรักประเทศไทยเป็นทุนอยู่แล้ว ประกอบกับเป็นการเรียกร้องจากลูกเรือว่าอยากจะมาเยือนที่ภูเก็ต ประเทศไทยสักครั้งหนึ่ง และการมาเยี่ยมเยือนภูเก็ตในครั้งนี้ ยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของประเทศอิตาลีและประเทศไทย เป็นเวลายาวนานถึง 156 ปี ทั้งนี้ ก่อนที่เรือจะมาแวะจอดที่ภูเก็ต มาจากท่าเรือ Belawan ประเทศอินโดนีเซีย ได้มีตัวแทนนักเรียนนายเรือไทย จำนวน 8 นาย เข้าร่วมฝึกภาคสนามกับลูกเรืออิตาลีด้วย โดยการฝึกเป็นไปด้วยความเรียบร้อยสมบูรณ์ เนื่องจากนักเรียนนายเรือไทยมีทักษะความรู้ความสามารถและสามารถทำงานร่วมกับลูกเรืออิตาลีได้เป็นอย่างดี
นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในนามของจังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับเรือฝึกลำนี้ เพราะประเทศไทยและประเทศอิตาลีมีความสัมพันธ์ทางการทูตต่อเนื่องมาเป็นเวลานานแล้ว และเนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ทางสถานเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย ร่วมกับหน่วยงานไทยที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน มีกำหนดจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำในช่วงค่ำของวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติด้วย โดยภายในงาน จะมีกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การเดินแบบผ้าไหมไทย การออกบูธสินค้าอิตาลี การแสดงศิลปวัฒนธรรม