ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา (12 กันยายน 2557 - 12 กันยายน 2558) กรมการกงสุล และ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ดำเนินภารกิจตามนโยบายข้อ 2 ของรัฐบาล ด้านการรักษาความมั่นคงของรัฐและการต่างประเทศ โดยการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับนานาประเทศบนหลักการที่ว่า "นโยบายการต่างประเทศเป็นส่วนประกอบสำคัญของนโยบายองค์รวมทั้งหมดในการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ว่าในด้านการเมือง เศรษฐกิจ หรือ สังคม โดยจะนำกลไกการทูตแบบบูรณาการมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น การคุ้มครองดูแลคนไทยและผลประโยชน์ของคนไทยในต่างแดน การแลกเปลี่ยนทางการศึกษา วัฒนธรรม การค้า การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการเปิดโลกทัศน์ให้มีลักษณะสากล 

                ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในรอบ 1 ปีของกรมการกงสุล ประกอบไปด้วยภารกิจต่างๆ ได้แก่

                1. การช่วยเหลือคุ้มครองคนไทยในต่างประเทศ ให้ความช่วยเหลือคนไทยตกทุกข์ได้ยากในต่างประเทศในทุกกรณี เช่น การช่วยเหลือแรงงานไทยในรัฐลิเบียเนื่องจากภาวะการสู้รบและความไม่สงบในประเทศเมื่อปี 2557 การช่วยเหลือนักศึกษาไทยออกจากสาธารณรัฐเยเมนซึ่งอยู่ในภาวะสงครามให้กลับประเทศไทย การช่วยเหลือลูกเรือประมงไทย 4 คน จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยโซมาลีที่ถูกโจรสลัดจับกุมเป็นเวลาเกือบ 5 ปี การช่วยเหลือคนไทยที่ประสบภัยจากแผ่นดินไหวที่สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล และการช่วยเหลือลูกเรือประมงไทยจากเกาะอำบนและบริเวณใกล้เคียงสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 - 31 สิงหาคม 2558 รวมทั้งหมด 1,446 คน กลับประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2558) โดยสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของประเทศไทยทั่วโลกทำหน้าที่คล้ายกับศูนย์ดำรงธรรมที่รับเรื่องร้องเรียน หรือ เรื่องขอความเป็นธรรมจากคนไทยในต่างประเทศและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป รวมทั้งมีการจัดตั้งหมายเลข hotline (โทรศัพท์เคลื่อนที่ เปิด 24 ชั่วโมง) จำนวน 135 หมายเลขทั่วโลก โดยประชาสัมพันธ์หมายเลข Hotline ดังกล่าว ให้ชุมชนไทยทราบโดยทั่วกัน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2557 - 31 สิงหาคม 2558 ได้รับเรื่องร้องเรียนหรือขอความเป็นธรรมในเรื่องต่างๆ และรวบรวมสรุปรายงานเข้ามายังกระทรวงการต่างประเทศ จำนวน 1,617 ราย นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของประเทสไทยในต่างประเทศได้อำนวยความสะดวกจัดให้บริการต่ออายุบัตรประจำตัวประชาชนแก่คนไทยในต่างประเทศด้วย

               2. การเปิดให้บริการคอลล์เซ็นเตอร์ (Call Center) สำหรับการบริการตอบรับทางโทรศัพท์ของกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ  ซึ่งเป็นการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล ในการยกระดับสมรรถนะของหน่วยงานของรัฐในการบริการเชิงรุก กรมการกงสุลในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจในการคุ้มครองดูแลผลประโยชน์ของคนไทยในต่างประเทศโดยตรง จึงได้เปิดให้บริการ Call Center เบอร์ 02-572-8442 ตลอด 24 ชั่วโมง เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2558 มีหน้าที่ให้บริการข้อมูลด้านการกงสุลทุกมิติ

              3. การเพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์ข้อมูลสำหรับคนไทยที่จะเดินทางไปต่างประเทศ เช่น ช่องทางแอพพลิเคชั่นโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Application) ภายใต้ชื่อ "Thaiconsular" ในระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ (Facebook ภายใต้ชื่อ Thai Consular Q & A , LINE และ We Chat  ภายใต้ชื่อ  Thaiconsular 

          4. การบริการจัดส่งเอกสารเพื่อแปลและรับรองผ่านไปรษณีย์ ประชาชนสามารถเปิดดูข้อมูลที่ www.consular.go.th และยื่นคำร้องขอแปลพร้อมรับรองทางกฎหมายผ่านไปรษณีย์กว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศ อาทิ งานทะเบียนราษฎร ทะเบียนบ้าน ทะเบียนรับบุตรบุญธรรม ใบสำคัญการสมรส ฯลฯ ด้วยมาตรฐาน EMS พร้อมระบบ tracking system ซึ่งสามารถตรวจสอบสถานะของเอกสารได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกสำหรับประชาชนแทนการมายื่นด้วยตนเองที่กรมการกงสุล ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย 

             5. การเปิดให้บริการต่ออายุบัตรประชาชนและทดแทนบัตรประชาชนใบเก่าได้ในระหว่างที่อยู่ในต่างประเทศ โดยสามารถขอรับบริการได้ที่สถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ของไทยใน 93 แห่งทั่วโลก

             6. การเปิดบริการลงทะเบียนขอรับบริการหนังสือเดินทางล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ www.passport.in.th