เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2558 นายไพสิฐ บุญปาลิต ผู้อำนวยการกองสัญชาติและนิติกรณ์เข้าพบหารือนายมานุช สร้อยเพชร รักษาการผู้อำนวยการส่วนราชทัณฑ์ต่างประเทศ สำนักทัณฑวิทยา กรมราชทัณฑ์เกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการโอนตัวนักโทษไทยในต่างประเทศเพื่อมารับโทษต่อในราชอาณาจักรและการเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการพิจารณาการโอนนักโทษของกองสัญชาติและนิติกรณ์
                        นายไพสิฐ ชี้ว่าการยกระดับกองสัญชาติฯ ให้เป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการพิจารณาการโอนตัวนักโทษจะเป็นประโยชน์ในการประสานงานการขอโอนตัวนักโทษจากทั่วโลก เนื่องจากกองสัญชาติฯ เป็นหน่วยงานหลักที่ต้องติดตามและดำเนินงานกับสถานทูตต่างๆ ตลอดจนการประสานติดต่อญาติของนักโทษเป็นจำนวนมาก  นอกจากนี้ ขอให้มีการหารือเพื่อแก้ไข พรบ. การปฏิบัติเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศในการดำเนินการตามคำพิพากษาคดีอาญา พ.ศ.2527 เพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิบัติงานและสถานการณ์ในปัจจุบัน อาทิ การผลักดันการช่วยเหลือผู้ต้องโทษให้กลับมารับโทษที่ประเทศไทยตามหลักมนุษยธรรมก็จะเป็นการสะท้อนถึงสภาวะที่เปลี่ยนไปของสถานการณ์โลก ซึ่งนานาประเทศต่างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และจะเป็นประโยชน์ต่อนักโทษของไทยที่ถูกคุมขังในต่างประเทศด้วย  
                        ด้านนายมานุชฯ กล่าวว่าตนให้การสนับสนุนการดำเนินงานของกรมการกงสุลและกรมราชทัณฑ์อยู่ในระหว่างการแก้ไข พรบ.ดังกล่าว โดยจะพิจารณาให้ใช้ดุลพินิจในกรณีที่นักโทษนั้นป่วยหนักหรือการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในการโอนตัวนักโทษ และกล่าวเสริมว่าขณะนี้ ฟิลิปปินส์และมาเลเซียได้เสนอการจัดทำสนธิสัญญาการโอนตัวนักโทษในลักษณะพหุภาคีภายในกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่ออำนวยความสะดวกในการโอนตัวนักโทษระหว่างกัน

                        กระทรวงการต่างประเทศ กรมการกงสุลมีนโยบายพร้อมที่จะพัฒนาการบริการประชาชนให้ดียิ่งขึ้นซึ่งรวมไปถึงการร่วมมือกับนานาประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางไปต่างประเทศของชาวไทย ทั้งนี้ ประชาชนสามารถศึกษาขั้นตอนของกรมการกงสุลจากเว็บไซต์ www.consular.go.th และเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศที่ www.mfa.go.th ได้เสมอ