เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 เวลา 13.30 น. นายแร็มโก ฟัน ไวน์คาร์เดิน (H.E. Mr. Remco van Wijngaarden) เอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ได้เข้าพบหารือกับนายสมาวิษฎ์ สุพรรณไพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ณ ห้องรับรอง ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โดยมีนางอรวิจิตร์ จันทรังสี หัวหน้าสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมด้วย นอกจากนี้ มีผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ จากฝ่ายไทยเข้าร่วม ได้แก่ ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัดภูเก็ต สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต และสำนักงานจังหวัดภูเก็ต และฝ่ายเนเธอร์แลนด์มีนายเซเวน สมูลเดอรส์ (Mr. Seven Smulders) กงสุลกิตติมศักดิ์เนเธอร์แลนด์ ณ จังหวัดภูเก็ต ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดพังงา กระบี่ และสุราษฎร์ธานี เข้าร่วมด้วย โดยมีประเด็นหารือที่สำคัญ ได้แก่ การท่องเที่ยวและความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน การดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยืนยันในความร่วมมือทุกด้านระหว่างกัน
เอกอัครราชทูตฯ ระบุว่า ปัจจุบัน ภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของชาวเนเธอร์แลนด์ ทั้งในฐานะสถานที่พักอาศัยและแหล่งท่องเที่ยว โดยมีประชากรชาวดัตช์ในภูเก็ตประมาณ 500 คน และมีนักท่องเที่ยวชาวเนเธอร์แลนด์เดินทางเข้าประเทศไทยปีละกว่า 250,000 คน พร้อมแสดงความขอบคุณทางจังหวัดภูเก็ตที่ให้การต้อนรับและดูแลชาวเนเธอร์แลนด์อย่างดี พร้อมสอบถามแนวทางการจัดการด้านโครงสร้างพื้นฐาน สนามบิน และการดูแลกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุและเด็ก
ด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ชี้แจงว่า จังหวัดภูเก็ตอยู่ระหว่างพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน และขยายสนามบินนานาชาติให้รองรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น รวมถึงการดูแลชาวต่างชาติในพื้นที่ทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยว ผู้อยู่อาศัย และผู้ประกอบธุรกิจ ซึ่งแต่ละกลุ่มก็จะดูแลตามตัวบทกฎหมาย อาทิ กฎหมายแรงงาน นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นพัฒนาสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุและเด็กอย่างเหมาะสม
ขณะที่กงสุลกิตติมศักดิ์ฯ กล่าวเสริมว่า ตนได้อาศัยในภูเก็ตมากกว่า 17 ปี และเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านการก่อสร้างและความเจริญ แต่ปัญหาการจราจรที่ติดขัดยังคงเป็นความท้าทายสำคัญ ซึ่งหวังว่าจังหวัดภูเก็ตจะมีแนวทางแก้ไขที่ชัดเจนในอนาคต ซึ่งการหารือครั้งนี้เป็นการสะท้อนความตั้งใจในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างจังหวัดภูเก็ตและราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ พร้อมร่วมมือเพื่อพัฒนาจังหวัดภูเก็ตให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ