กงสุลใหญ่สาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำจังหวัดสงขลา เข้าพบหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต

กงสุลใหญ่สาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำจังหวัดสงขลา เข้าพบหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต

วันที่นำเข้าข้อมูล 21 พ.ย. 2567

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 21 พ.ย. 2567

| 352 view

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 เวลา 14.00 น. นายซูวาร์กานา ปริงกานู (Mr. Suargana Pringganu) กงสุลใหญ่สาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำจังหวัดสงขลา ได้เข้าพบหารือนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ณ ห้องรับรอง ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โดยมีนางอรวิจิตร์ จันทรังสี หัวหน้าสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมด้วย นอกจากนี้ มีผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ จากฝ่ายไทยเข้าร่วม ได้แก่ เรือนจำจังหวัดภูเก็ต ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต  และท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต และฝ่ายอินโดนีเซียมีเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำจังหวัดสงขลา เข้าร่วมด้วย โดยมีประเด็นหารือที่สำคัญ ได้แก่ การท่องเที่ยวและความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน การดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ การแก้ไขปัญหาลูกเรือประมงลักลอบทำประมงผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยืนยันในความร่วมมือทุกด้านระหว่างกัน

 
กงสุลใหญ่อินโดนีเซียประจำจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ชาวอินโดนีเซียเดินทางมาที่จังหวัดภูเก็ตสูงถึงประมาณ 40,000 กว่าคนต่อปี ส่วนใหญ่เป็นลูกเรือประมง นักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยเครื่องบิน และบางส่วนแต่งงานกับคนไทยอยู่อาศัยและประกอบอาชีพอยู่ในพื้นที่ และมีความสุขสนุกสนานและพึงพอใจที่จังหวัดภูเก็ตจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัฒนธรรมร่วมเพอรานากัน ในช่วงที่ผ่านมา กรณีเกิดเหตุนักท่องเที่ยวชาวอินโดนีเซียเกิดอาการเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุในจังหวัดภูเก็ตและไม่ได้ทำประกันสุขภาพหรือประกันการเดินทาง จึงมีการติดต่อประสานงานกงสุลและได้ให้ความช่วยเหลือ โดยได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตด้วยดีเสมอมา
 
กงสุลใหญ่ฯ กล่าวด้วยว่า สำหรับประเด็นทางการไทยจับกุมลูกเรือประมงอินโดนีเซียที่เข้าน่านน้ำไทยและทำประมงผิดกฎหมายในจังหวัดสตูลและจังหวัดภูเก็ต ในปี 2565 มีการจับกุมจำนวน 11 คน และปี 2566 จับกุมอีก 69 คน ในขณะที่ลูกเรือประมงไทยถูกจับกุมที่อินโดนีเซียเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ในส่วนของลูกเรือประมงอินโดนีเซียที่ถูกจับนั้น ทางสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ไปเยี่ยมมาแล้ว 3 - 5 ครั้ง โดยได้รับความร่วมมือด้วยดีจากเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ปัจจุบัน ที่จังหวัดภูเก็ต มีการปล่อยตัวไปหมดแล้ว โดยกงสุลใหญ่ฯ เน้นย้ำในการเคารพกฎกติกาของเรือนจำฯ โดยปัจจุบัน ยังเหลือลูกเรือประมงอินโดนีเซียที่อยู่ในเรือนจำจังหวัดสงขลา 1 คนเท่านั้น และขอขอบคุณทางเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต และตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานภูเก็ต ที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือดูแลผู้ต้องขังจนสิ้นสุดกระบวนการ พร้อมกับส่งกลับประเทศอินโดนีเซีย
 
ทางด้านนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ประเทศอินโดนีเซียและประเทศไทยตั้งอยู่ในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน มีความสัมพันธ์อันดีอย่างต่อเนื่อง และทางโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตรับผิดชอบดูแลรักษาชาวต่างประเทศที่ด้อยโอกาส ไม่มีเงินเป็นค่ารักษาพยาบาล ไม่ใช่เฉพาะชาวอินโดนีเซียเท่านั้น ยังรวมไปถึงนักท่องเที่ยวจากยุโรปและแรงงานชาวเมียนมาจำนวนมาก และเป็นการช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม อย่างไรก็ดี หากการรักษาพยาบาลจำเป็นต้องใช้เวชภัณฑ์หรืออุปกรณ์การแพทย์มูลค่าสูง จำเป็นจะต้องติดต่อประสานงานกงสุล เพื่อให้ช่วยเหลือให้ถูกต้องต่อไป ในขณะเดียวกัน ทางจังหวัดภูเก็ตยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือในด้านการติดต่อประสานงานกงสุลเบื้องต้น ทางโทรศัพท์มือถือ โดยใช้วิดีโอคอลหรือสัมภาษณ์ออนไลน์ในกรณีที่จับกุมชาวอินโดนีเซีย เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมขั้นต้น ทั้งตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจน้ำ กองบัญชาการทัพเรือภาคที่3 มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับทางกงสุลอย่างต่อเนื่อง
 
นอกจากนี้ สำหรับการเชื่อมโยงระหว่างเกาะบาหลีกับเกาะภูเก็ตนั้น ปัจจุบัน มีการเปิดเส้นทางบินตรงมาแล้วประมาณ 3 เดือน มีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอินโดนีเซียและชาติอื่น ๆ เดินทางเข้ามาสู่จังหวัดภูเก็ต ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ดี ไม่มีปัญหา โดยหน่วยงานต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ตจะช่วยกันดูแล ปัจจุบัน ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตกำลังปรับปรุงและกำหนดให้มีหลุมจอดเพิ่มขึ้นอีก 4 หลุม ถ้าเป็นไปได้ หากมีการเปิดเส้นทางบินมาจากกรุงจาการ์ตาสู่จังหวัดภูเก็ต ก็จะเชื่อมโยงการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวของ 2 พื้นที่ได้มากขึ้น

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ