กรมการกงสุลจัดประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือแนวทางบริหารจัดการการคัดกรองการเข้าเมืองของนักท่องเที่ยวชาวจีน

กรมการกงสุลจัดประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือแนวทางบริหารจัดการการคัดกรองการเข้าเมืองของนักท่องเที่ยวชาวจีน

วันที่นำเข้าข้อมูล 16 มิ.ย. 2566

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 16 มิ.ย. 2566

| 791 view
กรมการกงสุลจัดประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือแนวทางบริหารจัดการการคัดกรองการเข้าเมืองของนักท่องเที่ยวชาวจีน

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2566 กรมการกงสุลได้เชิญส่วนราชการ 9 หน่วยงานครอบคลุมทั้งในมิติการส่งเสริมการท่องเที่ยว ได้แก่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและมิติความมั่นคง ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจสันติบาลและกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมหารือแนวทางบริหารจัดการการคัดกรองการเข้าเมืองของนักท่องเที่ยวจีน สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

1. ทุกหน่วยงานมีเป้าหมายร่วมกันในการส่งเสริมการท่องเที่ยวซึ่งรวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนให้มากที่สุด ทั้งที่เดินทางเข้าประเทศโดยการรับการตรวจลงตราอิเล็กทรอนิกส์ (e-Visa) หรือการตรวจลงตรา Visa on Arrival (VOA) โดยคำนึงถึงมาตรการการคัดกรองที่มีประสิทธิภาพซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ
 
2. ทุกหน่วยงานรับรองเอกสารประกอบต่าง ๆ ในการขอรับการตรวจลงตราประเภทท่องเที่ยวว่ามีความเหมาะสม ครบถ้วน และมีความจำเป็นต่อกระบวนการคัดกรองนักท่องเที่ยวซึ่งบริษัทกรุ๊ปทัวร์จีนมีความเข้าใจเกี่ยวกับเอกสารประกอบที่คลาดเคลื่อนจึงต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้อง ทั้งนี้ การยื่นคำร้องแบบออนไลน์ได้อำนวยความสะดวกโดยผู้ร้องไม่ต้องแสดงตัวตนที่สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่และเพียงยื่นเอกสารให้ครบตามที่กำหนดก็จะสามารถรับการตรวจลงตราได้ภายใน 7 วันทำการ นอกจากนี้ กรมการกงสุล กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะหารือร่วมกันเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดทำระบบ/เว็บไซต์เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสำหรับการตรวจสอบเอกสารประกอบคำร้องและความน่าเชื่อถือของบริษัทนำเที่ยว ซึ่งจะช่วยให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
 
3. ปัจจุบันระบบ e-Visa ระยะที่ 1 มีความพร้อมในการรองรับปริมาณคำร้อง 5 ล้านคนต่อปีและในระยะที่ 2 ซึ่งจะเริ่มใช้ในช่วงปี พ.ศ. 2567 จะสามารถรองรับคำร้องได้ 15 ล้านคนต่อปี
 
4. กรมการกงสุลจะเน้นย้ำกับสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ในจีนเกี่ยวกับแนวปฏิบัติด้านการตรวจลงตราที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้การพิจารณาตรวจลงตราสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 7 วันทำการ เว้นแต่กรณีที่ต้องมีการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา กรมการกงสุลได้มีการกำหนดแนวปฏิบัติเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการตรวจลงตราเพิ่มเติม อาทิ การอำนวยความสะดวกการตรวจลงตราสำหรับคณะที่จะเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย ซึ่งสามารถยื่นขอรับการตรวจลงตราแบบกลุ่มได้ในลักษณะ one stop service

5. ทุกหน่วยงานเห็นว่าระบบ e-Visa มีมาตรฐานและสามารถคัดกรองนักท่องเที่ยวจีนโดยคำนึงถึงมิติต่าง ๆ อย่างสมดุล ทั้งนี้ ในระยะที่ 2 จะมีการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบให้มีความรวดเร็ว ปลอดภัย มีการเพิ่มภาษาต่างประเทศซึ่งรวมถึงภาษาจีน และมีการขยายการเชื่อมโยงข้อมูลกับส่วนราชการด้านความมั่นคงเพิ่มเติม อาทิ สำนักข่าวกรองแห่งชาติและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ