ไทยและโอมานกระชับความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และการค้าประเวณี

ไทยและโอมานกระชับความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และการค้าประเวณี

วันที่นำเข้าข้อมูล 21 พ.ย. 2559

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 2,579 view

ไทยและโอมานกระชับความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และการค้าประเวณี

                     เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2559 นายวราวุธ ชูวิรัช อธิบดีกรมการกงสุล นำคณะผู้แทนฝ่ายไทยเข้าพบหารือกับนาย Mohamed Al Hassan ปลัดกระทรวงการต่างประเทศโอมานรับผิดชอบด้านการเมืองและหัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี โดยมีนาย Saeed Alshukaili อธิบดีกรมการกงสุลโอมาน และ นาย Mohammed Bin Abdullah Bin Ali Al Qatabi อธิบดีกรมอาเซียนโอมาน เข้าร่วมการหารือด้วย ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และการค้าประเวณีของหญิงไทยในโอมาน และตกลงที่จะสร้างช่องทางการประสานงานโดยตรงระหว่างทางการตำรวจโอมานกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมัสกัต พร้อมทั้งกำหนดให้มีเจ้าหน้าที่ติดต่อประสานงาน (contact person) และหมายเลขติดต่อ (hotline) ระหว่างกันเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันการณ์ และทั้ง 2 ฝ่ายจะร่วมกันจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MoU) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ต่อไป  นอกจากนี้ นายวราวุธ ชูวิรัช อธิบดีกรมการกงสุลได้แจ้งให้ฝ่ายโอมานทราบว่า ฝ่ายไทยอยู่ระหว่างการบูรณาการข้อมูลในการคัดกรองบุคคลที่ประสงค์จะเดินทางไปต่างประเทศระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการจัดทำฐานข้อมูลหนังสือเดินทางของบุคคลกลุ่มเสี่ยง (Watch List / Negative list) เพื่อเป็นแนวทางการป้องกันและป้องปรามผู้ที่ประสงค์เดินทางไปต่างประเทศในทางมิชอบอีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้ การค้าประเวณีในประเทศโอมานซึ่งเป็นประเทศมุสลิมถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและผิดหลักศาสนาอิสลาม โดยปัจจุบันมีโทษจำคุกสูงสุดระหว่าง 2 – 4 ปี

                   สำหรับคนไทยที่ประสงค์เดินทางไปประเทศโอมาน กรมการกงสุลขอแจ้งหมายเลข Hotline ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมัสกัต หมายเลข +968 9927 3440 / +968 9649 4733 ตลอด 24 ชั่วโมง  สำหรับการติดต่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉินของคนไทยในโอมาน และขอแนะนำให้คนไทยที่จะเดินทางไปต่างประเทศลงทะเบียนคนไทยก่อนการเดินทางได้ที่ http://www.consular.go.th/main/th/register เพื่อที่สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ไทยในต่างประเทศจะสามารถติดต่อและส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน โดยเฉพาะผู้ที่จะพำนักอยู่ในต่างประเทศเกินกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป

------------------------------------------------------